@@@...ร่วมให้กำลังใจ เพื่อนๆ สมาชิก โดยการ Comment ภาพที่เขา Post มากันหน่อยก็ดี นะครับ !!
Add a comment.

WHO'S ONLINE / จำนวนผู้เข้าชมหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

@ รอยยิ้มที่ขาดหาย


รอยยิ้มที่ขาดหาย

เห็นรอยยิ้ม ตัวน้อยนิด จิตสดใส

มองครั้งใด อดสงสาร เพราะความหิว

เพราะฐานะ ทางครอบครัว เริ่มมีริ้ว

รอเข้าคิว ทวงถามหา ทุกนาที


ถามความยาก ความอดโซ ของเด็กน้อย

ทั้งริ้วรอย ความเศร้าหมอง มิสดศรี

อยากกินดี อยู่สบาย มิเคยมี

ไม่สุขขี ตามต้องการ ของครอบครัว


เขียนโดย : แมงก่ำเบ้อ.........../ 27-05-54
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบ)

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

@ ชีวิตครู...บ้านนอก...สอนอย่างไร?


ชีวิตครู....บ้านนอก...สอนอย่างไร?


จบปริญญาเป็นครูตามชานเมือง

ไม่ฟูเฟื่องเลิศหรูหราตามเมืองใหญ่

เครื่องแต่งตัวตามประสาแล้วแต่ใจ

อดมิได้เพราะสงสัยเลยถามดู


เพราะเขาสอนตามความชอบความถนัด

มิได้อัดจนเกินไปเตรียมให้รู้

ปูพื้นฐานทั้งกายาธรรมลงสู่

ให้ควบคู่ไปกับเด็กเวลาเรียน


ค่อยค่อยก้าวทีละน้อยและค่อยฝึก

ให้สำนึกถึงพระคุณหมั่นพากเพียร

ปฎิบัติด้วยตนเองมิปวดเศียร

เด็กมิเอียนเพราะสนุกทุกก้าวเลย.


เขียนโดย : แมงก่ำเบ้อ....// 27-05-54

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

@ กาพย์ห่อโคลงกระทู้ "น้ำลดตอผุด"


*กาพย์ห่อโคลงกระทู้ "น้ำลดตอผุด"

"น้ำ" มาพาเ่อ่อล้น............เนืองนอง
"ลด" ลงตามครรลอง........ดั่งนี้

"ตอ" ไม้ไม่เคยมอง.........น้ำท่วม มิดนา
"ผุด" แน่แม้หลบลี้...........ซ่อนได้ ฤๅไฉน

"น้ำ" มาเต็มตลิ่ง.............ตออยู่้นิ่ง หาใครเห็น
ความชั่ว ตัวซ่อนเร้น......ปิดมิดไว้ ใช่อยู่ยง

"ลด" ลงส่งตามกาล....เต็มไม่นาน อย่าพาลหลง
สิ่งใด ใช่อยู่คง.....วันหนึ่งนั้น พลันสำแดง

"ตอ" ไม้หลบใต้น้ำ.....พลันโผล่ล้ำ ด้วยน้ำแห้ง
ดังนี้ มิเปลี่ยนแปลง.....ด้วยแรงกรรม กระทำมา

"ผุด" โผล่โชว์ให้รู้...........ตัวอย่างดู รู้คุณค่า
จริงแท้ แค่เวลา...........ไม่อาจหนี ชี้ความจริง


เขียนโดย : ออมสิน..........// ๑๕.๐๔.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพครับ)

@ รักของแม่ แค่บางแค


*รักของแม่ แค่บางแค*

ทุกเช้าเย็น เป็นต้องผ่าน ที่บ้านนี้

ด้านหน้ามี เก้าอี้ตั้ง เธอนั่งอยู่

ผ่านทุกครั้ง เห็นทุกครา หน้าประตู

เธอนั้นดู เหงาเศร้าสร้อย เหมือนคอยใคร


ผ่านไปมา ทุกวัน พลันเอ่ยทัก


พอรู้จัก คุ้นเคย เลยถามไถ่

รู้เรื่องราว ว่าอะไร เป็นอะไร

เมื่อเธอได้ บอกกล่าว เล่าความจริง


เธอเล่าย้อน ตอนสาว คราวหนหลัง

ครอบครัวยัง แสนสุข ในทุกสิ่ง

ลูกในท้อง กับสามี ที่พึ่งพึง

ไม่ทอดทิ้ง สิ่้งดี มีแบ่งปัน


คอยให้ความ อบอุ่น การุณย์รัก

เป็นเสาหลัก ถักทอ ต่อความฝัน

เมื่อลูกเกิด กำเนิดมา พร้อมหน้ากัน

คงเป็นวัน แห่งความสุข ของทุกคน


ดังฟ้าผ่า มาที่ตัว ครัวสลาย

เพราะความตาย มาพรากไป หัวใจหล่น

นึกถึงลูก อยู่ในท้อง ต้องพึ่งตน

แม้หมองหม่น อดทนฝืน ยืนต่อไป


คลอดออกมา หน้าตา ช่างน่ารัก

เฝ้าฟูมฟัก มิพักวาง ห่างไปไหน

แม้เหนื่อยยาก ลำบากหนัก ซักเท่าไร

จะยากไร้ ไม่ให้รู้ ดูอ่อนแอ


จะอยากเรียน เขียนอ่าน ด้านไหนไหน

งานอะไร ได้เงินทำ จนย่ำแย่

เรี่ยวแรงถอย ก็ปล่อยไป ไม่ดูแล

ขอเพียงแค่ แน่ใจ ให้สิ่งดี


เงินเดือนแพง ตำแหน่งดี มีรถขับ

ประสบกับ ความสำเร็จ ในหน้าที่

ออกเที่ยวเตร่ เฮสนุก ดึกทุกที

แม่ไม่มี หนีไปนอน ก่อนลูกยา


รับหญิงสาว เข้ามา หาคนหนึ่ง

บอกว่าพึ่ง รู้จัก รักหนักหนา

ชวนมาเที่ยว เทียวไป ก็เทียวมา

ถึงเวลา พาไปขอ ไม่รอรี


ในตอนแรก แทรกเข้ามา พาให้รัก

งานเบาหนัก ประจักษ์แน่ เป็นแม่ศรี

ดูอ่อนน้อม ถ่อมตน เป็นคนดี

กับแม่นี้ เอาใจใส่ ใคร่ดูแล


พอไ่ม่นาน สันดานออก หลอกต่อหน้า

ลับหลัีงมา วาจาเหน็บ เจ็บใจแท้

งานบ้านทิ้ง เป็นหญิงถ่อย คอยรักแก

ไม่แยแส แม่สักคน ไ่ม่สนใจ


เจอมากมาย หลายปัญหา ไม่กล้าบอก

ความช้ำชอก ยอกในอก พกเอาไว้

จนวันหนึ่ง ถึงที่สุด หลุดออกไป

สิ่งที่ได้ กลายกลับ รับคนเดียว


ลูกถามไป สะใภ้ซ้ำ จนย่ำแย่

บอกกับแม่ เตรียมของไว้ จะไปเที่ยว

ตอนได้ฟัง ในครั้งแรก แปลกใจเชียว

เพราะครั้งเดียว ก็ไม่เคย เอ่ยชวนกัน


ขับวนเวียน เปลี่ยนหลายหน จนงงหนัก

ไม่แวะพัก จักไปไกล ตรงไหนนั่น

ถึงบ้านนี้ ในที่สุด หยุดรถพลัน

บอกแม่นั้น รอนี่ก่อน เดี๋ยวย้อนมา


กระเป๋าลง ส่งวาง อยู่ข้างแม่

บอกว่าแค่ แถวนี้ มีร้านค้า

จะซื้อของ สองสามอย่าง อ้างวาจา

สามปีกว่า ไม่มารับ แม่กลับไป


เธอเล่าเสร็จ เช็ดน้ำตา เบือนหน้าหนี

ขอเบอร์ที ที่อยู่ถาม จะตามให้

ตอบไม่รู้ ดูท่าทาง ช่างตกใจ

ว่างเมื่อไหร่ ลูกคงรับ กลับทันที


กลัวลูกอาย ขายหน้า คนด่าลูก

แม่พันผูก รักสุดใจ ให้เต็มที่

เลวอย่างไร แม่ไม่โทษ โกรธไม่มี

แต่ลูกนี้ ตอบแทนแม่ " Bangkhae Home."




เขียนโดย : ออมสิน.............// ๐๒.๐๕.๒๕๕๔

@ จากโคลนดิน


จากโคลนดิน ถิ่นใต้น้ำ ที่ต่ำสุด

ค่อยค่อยผุด ขึ้นมา อย่างกล้าแกร่ง

ผ่านฝูงปลา เต่าปู หมู่แมลง

ต้องเข้มแข็ง อดทนมา กว่าเบ่งบาน


ความงดงาม ล้ำเลิศ ประเสริฐค่า

รังสรรค์มา บรรเจิดยิ่ง สิ่งประสาน

จรัสแสง แต่งแต้มสี ณ ทีธาร

อดทนผ่าน สิ่งเลวร้าย จนได้ดี


เขียนโดย : Omsin Vitoonphong..............// ๒๔-๐๕-๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบครับ)

@ ขยายพันธุ์วิธีไหน

*ขยายพันธุ์วิธีไหน*

ธรรมชาติ วาดสัตว์ คัดสองเพศ
ด้วยสาเหตุ แพร่พันธุ์ หมั่นขยาย
มีวิธี ลีลา ท่าสบาย
อันหลากหลาย คล้ายเหมาะ เฉพาะตัว

แต่ว่าพืช อืดนิ่ง ไม่วิ่งหนี
เกสรดี ต้นใบดอก นอกนั้นหัว
เห็นไช้เท้า เข้าให้ ใจเต็นรัว
แพร่พันธุ์ทั่ว มัวคิดว่า ใช้ท่าใด


เขียนโดย : Omsin Vitoonphong..........// ๑๕.๐๔.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบครับ)

@ บัวกี่เหล่า แล้วตัวเรา บัวเหล่าไหน


*บัวกี่เหล่า แล้วตัวเรา บัวเหล่าไหน*

พระไตรฯ เห็น บัวสามเหล่า เปรียบเอาไว้

เมื่อทรงได้ ตรัสรู้ มองผู้สอน

แบ่งสามกลุ่ม กิเลสรุม อินทรีย์รอน

ใช้บัวย้อน เปรียบสามเหล่า เข้าถึงธรรม


สังคายนา ว่าตามนัย อรรถกถ

รวมธรรมมา บุคคลสี่ ที่มาย้ำ

ปุคคลวรรค พระไตรฯ นี้ มีข้อธรรม

เพื่อใช้นำ มาเทียบ เปรียบกับคน


ไม่ได้ค้าน กับคำสอน มีก่อนเ่ก่า

หรือว่าเขลา เอามามั่ว ชั่วเป็นผล

ว่าตามนัย อรรถกถา ใช่พาวน

แต่มากล้น เจตนา พาสิ่งดี


"อุคฆฏิตัญญู " ผู้ฉลาด

ผู้สามารถ รู้เข้าใจ ในธรรมนี้

เพียงฟังธรรม สัมมาทิฏฐิมี

ดังบัวที่ พ้นน้ำ งามเบ่งบาน


"วิปจิตัญญู อบรมบ้าง

คิดไปพลาง ตอนฟังธรรม แล้วย้ำขาน

ฝึกฝนเพิ่ม รู้เข้าใจ ไม่ช้านาน

รุ่งขี้นบาน บัวปริ่มน้ำ ตามเข้าใจ


เป็นสัมมาทิฏฐิ ดำริเห็น

เหมือนดังเช่น "เนยยะ" ดำริไว้

มากศรัทธา ปัญญาน้อย ถอยกว่าใคร

ฟังเมื่อไร พิจารณา พานึกความ


ไม่ย่อท้อ อบรมเพิ่ม เติมธรรมนั้น

ความขยัน หมั่นเพียร ไม่เปลี่ยนข้าม

จนวันหนึ่ง บัวใต้น้ำ บานงดงาม

คงรู้ตาม ถึงนานหน่อย ค่อยๆไป


เหล่าสุดท้าย ใต้โคลนตม จมตลอด

ไม่มีรอด โผล่ขี้นมา เวลาไหน

มีมิจฉาทิฏฐิ อยู่ในใจ

เป็นพวกไร้ ความเพียร เอียนศรัทธา


เรียก"ปทปรมะ" สาระนี้

ฟังเต็มที่ อย่างไร ก็ไร้ค่า

ไม่เข้าใจ ไม่รับรู้ ดูธรรมมา

เรื่องปัญญา เรื่องสติ ไม่มีเลย


จะเป็นบัว กี่เหล่า เอาสิ่งไหน

ถึงอย่างไร คือพระธรรม นำมาเผย

ทางสายกลาง วางไว้ ให้เปรียบเปรย

บัวที่เอ่ย หาใช่สุด วิมุติธรรม

บัวสี่เหล่า (ตามนัยอรรถกถา)

ตาม นัยอรรถกถา ได้อธิบายบุคคล 4 ในปุคคลวรรค พระไตรปิฏก ปนกับอุปมาเปรียบบุคคลด้วยดอกบัว 3 เหล่าใน มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [6] โดยลงความเห็นว่าบุคคล 4 ที่พระพุทธองค์ตรัสในปุคคลวรรค เปรียบกับดอกบัว 3 เหล่า (โดยเพิ่มบัวเหล่าที่ 4 เข้าไปในบุคคล 4 ในปุคคลวรรค) ดังนี้


บุคคล ๔ จำพวก คือ อุคฆฏิตัญญู วิปจิตัญญู เนยย ปทปรมะ ก็เปรียบเหมือนดอกบัว ๔ เหล่านั้นแล. ในบุคคล ๔ จำพวกนั้น บุคคลที่ตรัสรู้ธรรมพร้อมกับเวลาที่ท่านยกขึ้นแสดง ชื่ออุคฆฏิตัญญู. บุคคลที่ตรัสรู้ธรรมเมื่อท่านแจกความแห่งคำย่อโดยพิส
ดาร ชื่อว่าวิปจิตัญญู. บุคคลที่ตรัสรู้ธรรมโดยลำดับด้วยความพากเพียรท่องจำ ด้วยการไต่ถาม ด้วยทำไว้ในใจโดยแบบคาย ด้วยคบหาสมาคมกับกัลยาณมิตร ชื่อว่าเนยย. บุคคลที่ไม่ตรัสรู้ธรรมได้ในชาตินั้น แม้เรียนมาก ทรงไว้มาก สอนเขามาก ชื่อว่าปทปรมะ.


1. ( อุคคฏิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
2. ( วิปจิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
3. ( เนยยะ ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่ม อยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
4. ( ปทปรมะ ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

เขียนโดย : Omsin Vitoonphong...............//๐๙.๐๕.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบครับ)

@ มรสุม


*มรสุม*

มรสุม กุมชีวิต คิดไม่ตก

เหมือนนรก พกในใจ เป็นไฟเผา

ทุกปัญหา มารุมล้อม รอบตัวเรา

จะปัดเป่า ให้เบาบาง หนทางตัน


ความมั่นใจ ไม่มี มันหนีหาย

เกิดอับอาย หน่ายผู้คน จนปิดกั้น

เรื่องจะนึก ปรึกษาใคร ไม่สนมัน

มัวเพ้อฝัน วันพรุ่งนี้ คงคลี่คลาย


คิดผิดผิด คิดใจท้อ คิดห่อเหี่ยว

คิดคนเีดียว คิดทางแย่ คิดแต่ร้าย

คิดไม่ออก คิดไม่ดี คิดหนีตาย

คิดทำร้าย คิดทำลาย คิดทำไม


เมื่ออยากไป ไปไม่ได้ ก็ให้หยุด

ถ้าเร่งรุด จะหลุดลอย ก็ปล่อยไว้

เมื่อกล้าตาย ต้องกล้าอยู่ ลองสู้ืใจ

จนเห็นได้ ในความจริง ทุกสิ่งคลาย


มรสุม กุมชีวิต คิดไม่ตก

เหมือนนรก ใครยกไว้ ใครทำร้าย

มากที่สุด ใจเราเอง เร่งทำลาย

สิ่งทั้งหลาย ไม่ร้ายเท่า ใจเราเอง


เขียนโดย : Omsin Vitoonphong.................//๐๗.๐๕.๒๕๕๔
(ขอบพระคุณเจ้าของภาพครับ)

@ กล ก.


กล ก.


กาลก่อนก็เ่ก่งกล้า่.............เกรียงไกร

เก็บเกี่ยวกฎกลไก.............ก่อกว้าง

เกลี้ยกล่อมเก่งแกว่งไกว.....กัดกร่อน กลับกลาย

แก้เก่าการเก้งก้าง..............กล่อมเกลี้ยง กลการ


เขียนโดย : Omsin Vitoonphnog

@ พระบารมีล้นเกล้า....ชาวไทย



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช 
ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

สิ่งที่พ่อ มอบให้ คนไทยนี้

เป็นสิ่งที่ ยิ่งยง ทรงค่าล้ำ

พ่อจะครอง แผ่นดิน นี้โดยธรรม

พ่อจะนำ ประโยชน์สุข ให้ทุกคน


ผ่านไปนาน แค่ไหน คนไทยรู้

พ่อคอยดู ให้ลูกนี้ มีสุขล้น

ด้วยความดี มีพระธรรม ใช้นำตน

เพื่อปวงชน คนไทย ได้อยู่ดี


ขอพระรัตนตรัย ให้สถิตย์

พระทรงฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ใด ในหลายที่

ขอพระพรหม ยมเ่ทวัญ อันมากมี

ส่งสิ่งดี นิรมิตร ประสิทธิ์พร


อันความทุกข์ โรคภัย ขอให้หาย

มีร่างกาย แข็งแกร่ง แรงไม่ถอน

ขอจงอยู่ เป็นมิ่งขวัญ นิรันดร

ขอให้พร ทุกสิ่ง เป็นจริงเทอญ (๐๔.๐๕.๒๕๕๔)


ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ 
ข้าพระพุทธเจ้า 
นายออมสิน วิทูรพงศ์ และครอบครัว



@ อุปสรรค...ก่อให้รักบังเกิด

อุปสรรค...ก่อให้รักบังเกิด

ไม่ว่าชีวิตเธอเป็นเช่นไร

เธอจะมีฉันที่เข้าใจเธอเสมอ

บนถนนหนทางที่แสนไกล

อย่าไปไหวหวั่นฉันอยู่ตรงนี้ไม่ไกล

แม้เธอล้มพลั้งพลาดอะไรยังไง

แต่ฉันก็พร้อมจะยอมอภัย

*อุปสรรคก่อให้รักบังเกิด

จงมั่นใจเถิดฉันเองจะไม่ไปไหน

สิ่งต่างๆ ให้มันแล้วไปเถิดให้รักบังเกิด

ท่ามกลางเรื่องราวที่วุ่นวาย

(ดนตรี.../)

อย่าไปฟังเสียงคนอีกร้อยพัน

เธอแค่ฟังฉันที่ฟังเธอเสมอ

บนถนนหนทางที่แสนไกล

อย่าไปไหวหวั่นฉันอยู่ตรงนี้ไม่ไกล

แม้เธอล้มพลั้งพลาดอะไรยังไง

แต่ฉันก็ยอมอภัย

( ซ้ำ * )

(ดนตรี.../)

( ซ้ำ *,* )

(ดนตรี.../)

 

ขับร้องโดย : POTATO
By : แมงก่ำเบ้อ
(ขอบพระคุณ The Rocker เอื้อเฟื้อข้อมูล)

@ สัญญา(จะไม่ไปไหน)

สัญญา(จะไม่ไปไหน)

ฉันไม่เคยยอมให้ใครทั้งนั้น

ฉันไม่เคยทำอะไรให้ใคร

มาแพ้ให้เธอทั้งหัวใจ เหตุผลมันคืออะไร

ฉันไม่มีแรงขัดใจเธอสักที

คงเพราะหัวใจที่เธอมีดีกว่าคนไหน ๆ

* ต่อไปนี้ นี่คือคนของเธอ

จากนี้ ถ้ามีอะไรโหดร้ายกระเทือนถึงจิตใจ

ขอเพียงแค่เธอบอก เพียงเธอกอดฉัน

** สัญญา ถ้าฉันยังมีลมหายใจ

ฉันจะไม่ยอม ให้ใครมาทำน้ำตาเธอรินหลั่นไหล

ฉันสัญญา รักเธอคนเดียว

เรื่อยไปจนวันสุดท้ายด้วยหัวใจ

(ดนตรี.../)

(ซ้ำ *,**)

(ดนตรี.../)

ฉันสัญญา ฉันจะรักธอ รักเธอคนเดียว

เรื่อยไปจนวันสุดท้าย ด้วยหัวใจ

 

ขับร้องโดย : POTATO
By : แมงก่ำเบ้อ
(ขอบคุณ The Rocker เอื้อเฟื้อข้อมูล)

@ ไม่รู้จะอธิบายยังไง

ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

ฉันไม่รู้ว่าเธอได้ยินไหม แต่ละคำที่ฉันพูดออกไป

ฉันไม่รู้ว่าเธอเข้าใจฉันไหม

ว่าฉันนั้นรักเธอแทบตาย

ฉันไม่รู้เธอได้ยินฉันไหม ที่ฉันขอร้องให้เธอไม่ไป

ฉันไม่รู้เธอเข้าใจฉันไหม ว่ารักเธอ

จนไม่รู้จะอธิบายยังไง

(ดนตรี../) 

เหมือนดาวบนฟ้ามืดดับไป หัวใจมันไร้เรี่ยวแรง

เหมือนแสงตะวันไม่ส่องที่ฉันเวลาที่่มันเช้า

ถ้าเราต้องจากไกล

ฉันรู้ ฉันผิดฉันเสียใจ

ฉันใช้อารมณ์จนเรื่องบานปลาย

แต่อยากให้รู้ว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ

* เธอคือไฟส่องทาง เธอคือทุกอย่าง

ของคนอย่างฉัน

มันไม่มีแสงใดในคืนที่ใจ ทุกข์ทรมาน

และฉัน ไม่รู้จะทนได้ไหม

กับชีวิตที่มันโหดร้าย ถ้าไม่มีเธอ

** ให้ฉัน ยอมเธอแค่ไหน

ยินดีถ้าทำให้หัวใจ ของเธอเปลี่ยน

ให้เรา ไม่ต้องแยกไป

ฉันนั้นรักเธอมากแค่ไหน

เธอคงไม่เคยได้เข้าใจ โปรดฟังไว้

ว่าฉันรักเธอ ฉันรักเธอ จนไม่รู้

ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

(ดนตรี../)

ให้เธอลองย้อนมองกลับไป

ถึงวันที่รักกันอยู่ คิดถึงเวลาดีๆ ที่มีเธอคงจะได้รู้

ฉันรักเธอเท่าไร

ฉันรู้ฉันผิดฉันเีสียใจ

ฉันใช้อารมณ์จนเรื่องบานปลาย

แต่อยากให้รู้ไว้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่ได้ตั้งใจ

(ซ้ำ *,**)

(ดนตรี.../)

เธอคือไฟส่องทาง เธอคือทุกอย่าง

ของคนอย่างฉัน

มันไม่มีแสงใดในคืนที่ใจ มืดมนหนทาง

และฉัน ไม่รู้จะทนได้ไหม

กับชีวิตที่มันโหดร้าย เมื่อไม่มีเธอ

ฉันไม่รู้เธอได้ยินไหม แต่ละที่ฉันพูดออกไป

ฉันไม่รู้เธอเข้าใจไหม ว่าฉันนั้นรักเธอแทบตาย

ฉันไม่รู้เธอได้ยินไหม ที่ฉันขอร้องให้เธอไม่ไป

ฉันไม่รู้เธอเข้าใจฉันไหม ว่ารักเธอ

จนไม่รู้จะอธิบายยังไง

(ดนตรี.../)

ฉันไม่รู้เธอได้ยินไหม ฉันไม่รู้เธอเข้าใจฉันไหม

ฉันไม่รู้เธอได้ยินไหม ฉันไม่รู้เธอเข้าใจฉันไหม

ฉันไม่รู้เธอได้ยินไหม ที่ฉันขอร้องให้เธอไม่ไป

ฉันไม่รู้เธอได้ยินไหม ที่ฉันขอร้องให้เธอไม่ไป

(ดนตรี.../)



ขับร้องโดย : POTATO
By : แมงก่ำเบ้อ
(ขอบคุณข้อมูลจาก The Rocker)

คลังรูปภาพ

ตัวละครในวรรณคดี

ตัวละครในวรรณคดี
คลิกๆ ค้นหาได้นะคะ

อาหารไทย

อาหารไทย
รูปภาพอาหารไทยๆ มีให้เลือกที่หลากหลาย คลิกๆ เข้าดูเลยนะคะ

วันใสๆวัยร่าเริง

วันใสๆวัยร่าเริง
ความสดใสและความอ่อนไหวในของอารมณ์